มาเพิ่มระดับของภาษาแบบไม่ต้องใช้ Very กันเถอะ

มาเพิ่มระดับของภาษาแบบไม่ต้องใช้ Very กันเถอะ

เพื่อน ๆ เคยสังเกตกันมั้ยว่าเวลาที่เราพูดคุยกันในชีวิตประจำวัน มันมักจะมีโอกาสได้ใช้คำพวก “มาก” “สุด ๆ” “โคตร ๆ” เพื่อเป็นการบอกถึงระดับของสิ่งที่เราพูดถึง

และถ้าเราจะพูดคำพวกนี้เป็นภาษาอังกฤษล่ะ พนันได้เลยว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงจะต้องนึกถึงว่าว่า very ขึ้นมาก่อนแน่ ๆ แต่รู้กันมั้ยว่าการที่เราจะเพิ่มระดับของคำที่พูดถึงในภาษาอังกฤษเนี่ยเราไม่จำเป็นต้องใช้คำว่า very เสมอไป

แต่ในภาษาอังกฤษจะมีการเปลี่ยนรูปของคำเพื่อเพิ่มระดับของความหมายของคำคำนั้นไปเลย ซึ่งโดยปกติฝรั่งเค้าก็ใช้คำพวกนี้กันอยู่แล้วถ้าเรามัวแต่มานั่งใช้ very มีหวังเฉยแย่ และวันนี้เราก็มีบางตัวอย่างของคำศัพท์เหล่านั้นมาแชร์ให้เพื่อน ๆ กัน ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่

Good > Superb

จากคำว่า Good ที่แปลว่า “ดี” พอเราใช้เป็น Superb ก็จะเพิ่มระดับเข้าไปกลายเป็นคำว่า “ดีเยี่ยม” นั่นเอง

Clever > Brilliant

คำว่าฉลาดอย่าง Clever เมื่อเราเพิ่มระดับเข้าไปก็จะกลายเป็นคำว่า Brilliant ที่แปลว่า “ล้ำเลิศ”

Angry > furious

ถ้าโกรธใครมาก ๆ ก็อย่าไปบอกว่า Very angry กันล่ะ แต่ให้ใช้ Furious ที่หมายถึงความ “โกรธแบบสุด ๆ”

Hungry > Ravenous

ถ้ามีคนหิวจนเค้าต้องใช้คำว่า Ravenous หมายความว่าเราต้องรีบหาอะไรให้เค้ากินแล้วหล่ะ เพราะเค้ากำลัง “หิวแบบสุด ๆ” “หิวจนอดอยากปากแห้ง” เลย

Tasty > Delicious

Delicious หมายถึง “อร่อยล้ำเลิศ” เป็นขั้นกว่าของ Tasty ที่แปลว่า “อร่อย” แต่ Delicious เป็นคำที่คำไทยใช้กันบ่อยมากกว่า Tasty เพราะงั้นต่อไปถ้าจะชมอาหารจานไหนก็ดูดี ๆ นะ ว่ามัน Tasty หรือ Delicious

Tired > Exhausted

ถ้าเราอยากบอกใครว่าเราเหนื่อยมาก ๆ จากคำว่า Tired ที่แปลว่า “เหนื่อย” พอเราใช้เป็น Exhausted ก็จะเพิ่มระดับเข้าไปกลายเป็นคำว่า “เหนื่อยฝุด ๆ” นั่นเอง

Hot > Scalding

บางทีเวลาเรากินกาแฟ หรือชาร้อน ๆ แล้วเรารู้สึกว่ามันร้อนมากจนคำว่า Hot ก็ยังไม่พอ เราสามารถใช้คำว่า Scalding ที่แปลว่า “ร้อนจนลวก” เพื่อบอกถึงความร้อนของมันได้

Cold > Freezing

เมื่อมีความร้อนไปแล้วก็ต้องมีความเย็นซึ่ง Freezing ก็เป็นขั้นกว่าของ Cold เพราะ Freezing หมายถึงความเย็นที่ “เย็นยะเยือก” หรือ “เย็นเป็นน้ำแข็ง” นั่นเอง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ร่วมแสดงความคิดเห็น