Pronoun - คำสรรพนาม

Pronoun - คำสรรพนาม

Pronoun แปลว่า คำสรรพนาม คือ คำที่ใช้แทนคำนาม เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวคำนามซ้ำๆ ในประโยค ช่วยทำให้ประโยคกระชับสั้นลง มีทั้งหมด 9 ประเภท ดังนี้

1. บุรุษสรรพนาม (Personal Pronoun)

ใช้กล่าวถึงตัวผู้พูด และตัวผู้ฟังหรือผู้ที่ถูกกล่าวถึง มีง่ายๆ สั้นๆ แค่ ประธาน (subject) และกรรม (object)

ประธาน (subject) ได้แก่ I, You, We, They, He, She, It

ตัวอย่าง My English teacher is Pensrisangwan. She teaches Mathayomsuksa 6.

แปลว่า ครูภาษาอังกฤษของฉัน คือ เพ็ญศรีสังวาลย์ เขาผู้หญิงสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

คำอธิบาย เขาผู้หญิง (she) แทน เพ็ญศรีสังวาลย์ (Pensrisangwan) หากต้องกล่าวถึงในประโยคต่อไป ก็เพียงแค่ใช้คำสรรพนามแทน ไม่มีความจำเป็นต้องกล่าวชื่อเต็มซ้ำแล้วซ้ำอีก

กรรม (object) ได้แก่ me, you, him, her, it, us, them

ตัวอย่าง Phi Mak Phra Khanong is my favorite film. I like it a lot.

แปลว่า พี่มากพระโขนงเป็นละครที่ฉันโปรดปราน ฉันชอบมันมาก

คำอธิบาย มัน (it) แทนนาม พี่มากพระโขนง (Phi Mak Phra Khanong) ถ้าให้พูดซ้ำกัน หลายๆรอบ คงเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย ฉะนั้น จึงมีคำสรรพนามมาทำหน้าที่แทนผู้ที่ถูกกล่าวถึงในประโยคต่อไป ทำให้บทสนทนาดูลื่นไหลยิ่งขึ้น

2. คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive Pronoun)

ใช้แทนคำนามเมื่อต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ ใช้บอกเจ้าข้าวเจ้าของ ได้แก่ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs

ตัวอย่าง Pawut’s motorcycle is black, mine is white.

แปลว่า รถจักรยานยนต์ของภาวุฒิสีดำ ของฉันสีขาว

คำอธิบาย ของฉัน (mine) กล่าวถึงรถ ซึ่งเป็นของฉัน แต่ทว่า...ไม่จำเป็นต้องใช้คำว่า motorcycle ซ้ำอีกในการสร้างประโยคใหม่ แต่ใช้คำสรรพนามแทนคำนามได้เลยค่ะ

3. สรรพนามสะท้อนกลับ (Reflexive and Intensive Pronoun)

ราวกับเป็นกระจกที่สะท้อนการกระทำของคำนาม ฟังดูหลอนๆเนอะ แต่อันที่จริงแล้ว วิธีใช้แสนจะง่ายดาย มีสองแบบ ดังนี้

3.1 คำสรรพนามสะท้อนกลับ (Reflexive Pronoun)

ใช้แทนคำนามที่อยู่ข้างหน้า ประมาณว่าคำนามข้างหน้าเป็นคนเดียว หรือสิ่งเดียวกันกับสรรพนามนี้นะ แต่ถ้าไม่มีก็พอจะเข้าใจ ไม่เสียรูปประโยคอันใด แต่ก็อาจจะเกิดคำถามคลางแคลงใจว่าทำอะไร เพื่อใคร ฉะนั้นควรระบุให้ชัดเจนเลยจะดีกว่า ได้แก่ myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, yourselves, themselves

ตัวอย่าง Ramill and Phetra bought themselves a luxury house.

แปลว่า รามิลและเภตราได้ซื้อบ้านหรูด้วยตัวของเขาทั้งหลายเอง

คำอธิบาย ด้วยตัวของเขาทั้งหลาย (themselves) โดยสื่อว่า ประธาน(subject) ของประโยค เป็นผู้ซื้อบ้าน กระทำตั้งแต่ต้นจนจบโดยเสร็จสมบูรณ์ แต่ถ้าไม่มีสรรพนามนี้ ก็อาจจะเป็นที่สงสัย เช่นว่า ซื้อมาอยู่เอง หรือซื้อมาให้ใครอยู่ อะไรประมาณนี้

3.2 คำสรรพนามแบบเข้ม (Intensive Pronoun)

ต่างกับแบบแรกตรงที่ว่า ไม่มีได้นะ เนื่องจากว่า เน้น***ประธาน ขอเน้นย้ำๆๆไปที่ประธานเป็นผู้กระทำเท่านั่นนะคะ คนอื่นไม่เกี่ยว ได้แก่ myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, yourselves, themselves

ตัวอย่าง Pimala sold a trendy watch herself.

แปลว่า พิมาลาได้ขายนาฬิกาทันสมัยด้วยตัวของเขาผู้หญิงเอง

คำอธิบาย ของเขาผู้หญิง (herself) หมายความว่า พิมาลาขายของด้วยตนเอง มิได้ฝากใครขาย เน้นไปที่ประธาน ให้รู้ไว้ว่ากระทำเอง...เท่านั่น!!!

4. สรรพนามชี้เฉพาะ (Definite/Demonstrative Pronoun)

ตามชื่อเลยจ้า แทนคำนาม ชี้เฉพาะเจาะจง สามารถอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายตามลำพัง ไม่จำเป็นต้องมีนามมาต่อหลัง เพราะมันแทนนามนั่นไปแล้ว นอกจากนี้ยังใช้บอกเวลา สถานที่ ทั้งแบบไกลและใกล้ได้อีกด้วย ได้แก่ This, That, These, Those

ตัวอย่าง Which one do you prefer, this or that?

แปลว่า คุณชอบอันไหน นี้หรือนั่น

คำอธิบาย นี้(this) และ นั่น(that) ใช้แทนคำนามซึ่งอาจจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ อันใดก็ตาม ที่เขาต้องการให้เลือก โดยพิจารณาจากประโยคแวดล้อม แต่ตัดบทใช้เพียงแค่คำสรรพนาม เพื่อพูดให้กระชับฉับไว และเข้าใจให้ง่าย


5. สรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะ (Indefinite Pronoun)

ตรงข้ามกับข้อ 4 แบบหยินกับหยางเลย คือเมื่อกี้เจาะจง แต่อันนี้ไม่เจาะไม่จง และแถมเป็นเอกพจน์ซะส่วนใหญ่ ได้แก่ somebody, someone, something, anybody, anyone, anything, nobody, no one, nothing, everybody, everyone, everything

ตัวอย่าง Nobody is perfect?

แปลว่า ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ

คำอธิบาย ไม่มีใครเลย(nobody) เป็นคำสรรพนามแทนคนทั่วๆไป เพื่อให้เราไม่จำเป็นเขียนรายนามชื่อคนทั่วทั้งโลก มิฉะนั้นกี่ภพกี่ชาติก็คงไม่สำเร็จหรอก

6. สรรพนามคำถาม (Interrogative Pronoun)

ความหมายตรงตัวเป็นสรรพนามที่ใช้เพื่อถามคำถาม ได้แก่ Who, Whom, Whose, What, Which

ตัวอย่าง What is your favorite food?

แปลว่า อาหารอะไรที่คุณโปรดปราน

คำอธิบาย อะไร (what) เป็นสรรพนามที่ใช้เพื่อตั้งคำถาม ง่ายๆสั้นๆ ได้ใจความ

7. สรรพนามเชื่อมความ (Relative Pronoun)

ราวกับว่าใช้เชื่อมประโยคสองประโยคให้ฟังแล้วลื่นไหล สวยงาม เป็นธรรมชาติ พร้อมกับลดการใช้ลูกน้ำ (comma) เสมือนว่าเป็นเจ้าของภาษา ได้แก่ who, which, whose, whom, that, when, where, why

ตัวอย่าง Prima is an actress who is the most popular in Thailand.

แปลว่า พริมาเป็นนักแสดงหญิงผู้ซึ่งโด่งดังทีสุดในประเทศไทย

คำอธิบาย ใคร (who) เป็นสรรพนามที่เชื่อมข้อความ พริมาเป็นนักแสดงหญิง และพริมาโด่งดังที่สุดในประเทศ แต่ไม่ต้องมีคำว่าพริมาซ้ำ เพราะมีสรรพนามซึ่งแทนนามไปเรียบร้อยแล้ว

8. วิภาคสรรพนาม (Distributive Pronoun)

ใช้กล่าวถึงคนทีละคน สิ่งของทีละอย่าง มักเป็นเอกพจน์ ใช้ตามหลังคำกริยาและคำนามที่เป็นเอกพจน์ จำไว้ให้ดี ได้แก่ each, either, neither

ตัวอย่าง Each day our parents work hard for us.

แปลว่า ในแต่ละวันพ่อแม่ของพวกเราทำงานหนักเพื่อพวกเรา

คำอธิบาย แต่ละ (each) เป็นสรรพนามกล่าวถึงวันแต่ละวัน โดยตัดปัญหาการกล่าวตั้งแต่ วันอาทิตย์ถึงวันเสาร์ หรือการนับวันทั้งสัปดาห์

9. วิภาคสรรพนาม (Reciprocal Pronoun)

คนสองคน หรือมากกว่าสองคน กระทำพร้อมกัน หรือมีผลพวงจากการกระทำเหมือนกัน โดยแปลประมาณว่า กันและกัน อะไรยังเนี่ย? ได้แก่ each other, one another

ตัวอย่าง Wikanda and Anirut gave each other diamond rings on the wedding day.

แปลว่า วิกันดาและอนิรุทธิ์แลกแหวนเพชรให้กันและกันในวันแต่งงาน

คำอธิบาย กันและกัน (each other) เป็นสรรพนามเพื่อทำให้ประโยคดูง่ายขึ้น โดยเข้าใจว่าสองคนกระทำร่วมกัน นั่นคือแลกแหวนให้กันนั่นเอง

ไม่ยาก แต่ง่ายมาก ฟินๆเรียนๆกันไป ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษฝึกไว้ ใช้ให้คล่อง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ร่วมแสดงความคิดเห็น